สี่หม้อไฟจีนต้นตำรับ ที่คุณอาจยังไม่รู้
ทานวนไปทานได้ไม่มีเบื่อ หม้อไฟเสฉวนสุดฮิตจากประเทศจีน
หม้อไฟเสฉวนสุดฮิตจากประเทศจีน เอกลักษณ์หน้าตาและรสชาติที่โดดเด่นความเผ็ดชาจากพริกเสฉวนที่ใคร ๆ ก็ต้องยอมสยบให้ แต่ในความเป็นจริงหม้อไฟในจีนไม่ได้มีแค่หม้อไฟแบบเสฉวนเท่านั้น แต่ยังมีหลากหลายชนิด
หม้อไฟฉงชิ่ง และหม้อไฟเสฉวน เป็นหม้อไฟที่มีชื่อเสียงในด้านรสชาติเผ็ดร้อน ความแตกต่างระหว่างหม้อไฟสองแบบนี้ หม้อไฟฉงชิ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หม้อไฟผ้าขี้ริ้ว” เพราะใช้เครื่องในสัตว์เช่นผ้าขี้ริ้ว คอวัว เลือดเป็ด เลือดวัวหรือเครื่องในอื่น ๆเป็นส่วนประกอบหลักในขณะที่หม้อไฟเสฉวนมีส่วนผสมเครื่องปรุงมากมาย สามารถทานคู่กับเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมูและผักทุกชนิดได้
หม้อไฟกวางตุ้ง คนกวางตุ้งให้ความสำคัญกับการกินหม้อไฟแบบตุ๋นยาจีนอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงต้มน้ำแกงแบบใสเป็นพื้นฐานแล้วเติมเนื้อสัตว์ลงไป เช่น สัตว์ทะเลหรือเนื้อสัตว์ป่าเพื่อเพิ่มรสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น ส่วนน้ำจิ้มเป็นซอสสุกี้สไตล์กวางตุ้ง หากกินแบบต้มหม้อดินหรืออบหม้อดิน ใช้น้ำจิ้มที่มีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้กับซีอิ๊ว คนแถบแต้จิ๋วและซัวเถายังนิยมใส่ลูกชิ้นเนื้อวัวลงไปเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ด้วย
หม้อไฟผักดองกับเนื้อหมู (酸菜白肉火锅) ต้นกำเนิดมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน น้ำซุปเกิดจากการผสมผสานระหว่างกะหล่ำปลีดองที่มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ให้ความสดชื่น จับคู่กับเนื้อหมูสามชั้นจนเกิดรสชาติเฉพาะตัว ในส่วนผสมของหม้อไฟมีวัตถุดิบ เครื่องในหมู เต้าหู้ เลือดหมู ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ และผักต่าง ๆ แต่ส่วนผสมทั้งหมดจะถูกกลบด้วยกลิ่นหอมของน้ำซุปหมู เป็นที่โปรดปรานของคนชอบทานเนื้อหมูเป็นอย่างมาก
หม้อไฟเนื้อแกะที่เรียกว่า “ซ่วนหยางโร่ว” หรือที่คนปักกิ่งเรียกว่า “ซ่วนกัวจื่อ” หยางโร่ว แปลว่าเนื้อแกะ ส่วน “ซ่วน” เป็นคำกิริยาแปลว่าการนำเนื้อแกะที่เต็มไปด้วยริ้วไขมันฝานบางๆ ลงไปจุ่มเร็วๆในหม้อ รูปทรงหม้อไฟมีความแปลกตา ถึงแม้จะมีความคล้ายหม้อไฟโต๊ะจีนบ้านเรา แต่ปล่องตรงกลางนั้นทำเป็นรูปทรงกรวยทรงสูง ตัวหม้อเป็นทองแดง หูหิ้วสามารถจับได้โดยไม่ร้อน ทั้งๆ ที่มีน้ำเดือดอยู่