หม่าล่าหม้อไฟ ทำไมถึงกลายเป็นเมนูกระแสยอดฮิต!
หม่าล่าหม้อไฟเป็นเมนูอาหารยอดฮิตเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับรสชาติเผ็ดและชาของหม่าล่าหม้อไฟแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่คนไทยจำนวนไม่น้อยถึงหลงใหลในรสชาติอาหารที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนเมนูไหนนี้ ส่งผลให้หม่าล่าหม้อไฟเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
ทำความรู้จัก หม่าล่าหม้อไฟ
หม่าล่าหม้อไฟ เป็นคำที่ชาวไทยเรียกกันติดปากอย่างแพร่หลาย แต่จริง ๆ แล้วอีกชื่อหนึ่งของหม่าล่าหม้อไฟคือ หม่าล่าฮัวกัว (麻辣火鍋) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยเป็นเมนูอาหารประเภทซุปหรือต้ม ที่นำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ชื่นชอบหรืออยากกิน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ หรือผัก นำมาใส่ในซุปหม่าล่าที่เป็นตัวชูโรงด้านรสชาติของเมนูนี้
โดยเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ หม่าล่าหม้อไฟก็คือสุกี้ชาบูทั่ว ๆ ไป เพียงแต่มีความแตกต่างที่พิเศษเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ ‘พริกหม่าล่า’ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมนูนี้ โดยเป็นการนำพริกหม่าล่าไปปรุงกับน้ำซุปที่เตรียมไว้ เพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่น จัดจ้าน และเป็นเอกลักษณ์จนกลายมาเป็น ‘หม่าล่าหม้อไฟ’ เมนูยอดฮิตอย่างในปัจจุบันนั่นเอง
ส่วนประกอบของหม่าล่าหม้อไฟมีอะไรบ้าง?
หม่าล่าหม้อไฟมีการปรับปรุงรสชาติให้เข้ากับความชอบของคนไทย ทั้งด้านรสชาติที่มีความเผ็ด และความชา รวมเข้ากับความหวานและความหอมจากวัตถุดิบที่หลากหลาย ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าส่วนประกอบหลักของหม่าล่าหม้อไฟมีอะไรบ้างที่ทำให้เมนูอาหารนี้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น้ำซุป
โดยทั่วไปแล้ว น้ำซุปหม่าล่าหม้อไฟจะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าต้องการให้น้ำซุปออกมารสชาติเป็นอย่างไร แต่กระนั้น สำหรับหม่าล่าหม้อไฟแล้ว ทุก ๆ ที่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ หม่าล่า ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของความอร่อยเลยก็ว่าได้ ซึ่งน้ำซุปหม่าล่าหม้อไฟประกอบไปด้วยวัตถุดิบหลัก ๆ ดังนี้
- พริกหม่าล่าที่ให้รสชาติเผ็ด ชา
- พริกแห้ง เพิ่มรสเผ็ดและส่งกลิ่นหอม
- เครื่องเทศ เช่น อบเชย, กระเทียม, กานพลู เป็นต้น
- เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เช่น ซอสหวาน, ซอสถั่วเหลือง, น้ำมันงา หรือซุปกระดูก เป็นต้น
เนื้อสัตว์
- เนื้อหมู
- เนื้อวัว
- เนื้อไก่
- เนื้อแพะ
- เนื้อปลา
- กุ้ง
- ปลาหมึก
- เครื่องใน (ตับ / ไส้ / ไต)
ผัก
- ผักกวางตุ้ง
- ผักกาดขาว
- ผักกาดหอม
- หัวไชเท้า
- เห็ด
- ผักบุ้ง
- ขึ้นฉ่าย
- สาหร่าย
- ฟักทอง
- ต้นหอม
วัตถุดิบอื่น ๆ
- เต้าหู้ (เต้าหู้ไข่ / เต้าหู้ถั่วเหลือง)
- เส้น (บะหมี่หยก / วุ้นเส้น)
- ลูกชิ้น (ลูกชิ้นปลา / ลูกชิ้นกุ้ง)
- ไส้กรอก
- ไข่
- ปูอัด
เครื่องเคียงและซอส
นอกจากส่วนประกอบสำคัญที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้การรับประทานหม่าล่าหม้อไฟพิเศษและมีอรรถรสมากขึ้น นั่นคือ ‘เครื่องเคียงและน้ำจิ้ม’ โดยส่วนใหญ่แล้วจะประกอบไปด้วยน้ำจิ้ม 2 ประเภทหลัก ๆ ที่ทุกร้านควรมี ได้แก่ น้ำจิ้มสุกี้ และน้ำจิ้มสามรส (น้ำจิ้มซีฟูด) แต่กระนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนว่าชอบน้ำจิ้มอะไร ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบน้ำจิ้มเลยก็เป็นได้เช่นเดียวกัน
ในส่วนของเครื่องเคียงนั้นไม่ตายตัว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบไปด้วย พริกสด ขิง ข่า หรือกระเทียม เป็นต้น เพื่อเป็นการตัดรสชาติของหม่าล่าหม้อไฟให้สามารถรับประทานได้อย่างหลากหลายและอร่อยมากยิ่งขึ้น
ทำไมหม่าล่าหม้อไฟถึงกลายเป็นเมนูยอดฮิตติดกระแส?
หม่าล่าหม้อไฟเริ่มเข้ามามีบทบาทในเทรนด์อาหารการกินของประเทศไทยราว ๆ ปี 2019 ซึ่งด้วยความที่เป็นรสชาติจัดจ้าน เป็นเอกลักษณ์ และแปลกใหม่ที่คนไทยไม่เคยได้สัมผัสรสชาติแบบนี้มาก่อน รวมเข้ากับความอร่อยของน้ำซุปที่เข้มข้น และน้ำจิ้มสูตรพิเศษของแต่ละร้าน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหม่าล่าหม้อไฟถึงถูกปากคนไทยและกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
รวมไปถึงบรรยากาศการรับประทานหม่าล่าหม้อไฟ ภายในห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากพริกหม่าล่าอ่อน กลิ่นจากเครื่องเทศต่าง ๆ หรือกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่ผ่านการลวกกับน้ำซุปที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้การรับประทานหม่าล่าหม้อไฟมีความเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษ พร้อมทั้งรับประทานกับครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก ทำให้หม่าล่าหม้อไฟเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกมื้ออาหารที่ได้รับการยอมรับอย่างมาก
นอกจากนี้ อีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้หม่าล่าหม้อไฟกลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยมในประเทศไทยคือ วัตถุดิบที่หลากหลาย เนื่องจากการรับประทานหม่าล่าหม้อไฟสามารถใส่วัตถุดิบต่าง ๆ อย่าง เนื้อสัตว์ ผัก หรืออื่น ๆ ตามที่ต้องการได้อย่างอิสระ ไม่มีตายตัว ยกตัวอย่างเช่น เนื้อไก่ เต้าหู้ปลา หรือกระดูกอ่อนก็สามารถใส่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อิสระ แถมยังอร่อยอีกด้วย
บทสรุป
หม่าล่าหม้อไฟ เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ ด้วยรสชาติเผ็ด และชาที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับเสฉวน รวมเข้ากับการปรุงที่ปรับให้ถูกปากคนไทย จึงทำให้หม่าล่าหม้อไฟกลายเป็นเมนูใหม่ที่ท้าทายและน่าสนใจเป็นอย่างมากในประเทศไทย
หากใครที่กำลังมองหาร้านหม่าล่าหม้อไฟที่มีโดดเด่นในด้านคุณภาพของวัตถุดิบ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และบรรยากาศร้านที่น่าหลงใหล Shu Daxia ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการรับประทานหม่าล่าหม้อไฟของท่านอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ หรือจองคิวที่เบอร์ 094-491-3900 และช่องทางการติดต่ออื่น ๆ ของ Shu Daxia