ชาบูหม่าล่า

ชาบูหม่าล่า เมนูยอดฮิตปี 2024 กับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์!!

ชาบูหม่าล่ามาพร้อมกับรสชาติที่แปลกใหม่ แต่กลับถูกปากคนไทยจำนวนไม่น้อยเลย โดยในปัจจุบัน หากถามคนไทยว่ารู้จักหม่าล่าหรือไม่นั้น มั่นใจได้เลยว่ามากกว่า 70 หรือ 80% ตอบว่ารู้จักอย่างแน่นอน ซึ่งชาบูหม่าล่าเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารยอดฮิตอย่างในปัจจุบัน

โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับชาบูหม่าล่า และหม่าล่าว่าคืออะไร มีที่มาที่ไปมาจากไหน และเหตุผลว่าทำไมชาบูหม่าล่าถึงกลายมาเป็นเมนูอาหารยอดนิยมในประเทศไทย พร้อมประโยชน์อีกมากมายที่ดีต่อสุขภาพที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้

หม่าล่า คืออะไร?

ชาบูหม่าล่า

ก่อนเราไปพูดถึงชาบูหม่าล่า เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหม่าล่ากันก่อน โดยหม่าล่า (Mala) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย แต่กระนั้น หลายคนยังคงเข้าใจผิดว่า ‘หม่าล่า’ เป็นชื่อของเมนูอาหารที่มีรสชาติเฉพาะ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย โดยหม่าล่าคือพริกหรือเครื่องเทศชนิดหนึ่งของประเทศจีน มีส่วนประกอบหลัก ๆ คือพริกไทยเสฉวน พริก และเครื่องเทศอื่น ๆ จากนั้นนำไปเคี่ยวในน้ำมัน จนกลายมาเป็นพริกหม่าล่าอย่างในปัจจุบัน

โดยคำว่า ‘หม่าล่า’ แยกออกได้เป็น 2 คำคือ คำว่า ‘หม่า’ ที่แปลว่า ชา ส่วนคำว่า ‘ล่า’ แปลว่าเผ็ด ซึ่งหมายถึงอาการเผ็ดร้อนของอาหาร และรู้สึกชาในปากนั่นเอง

(อ่านเพิ่มเติม: หม่าล่า คืออะไร? ทำความรู้จัก ‘หม่าล่า ฟีเวอร์’)

ชาบูหม่าล่ากับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์!

ชาบูหม่าล่ามีรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างรสชาติเผ็ดร้อน และรสชาติชา ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และทำให้ผู้คนหลงไหลได้ไม่ยากนัก โดยความเป็นเอกลักษณ์รสชาติของชาบูหม่าล่าประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ 

รสชาติเผ็ด

ความโดดเด่นและความแตกต่างของรสชาติพริกหม่าล่าคือ พริกจะมีความเผ็ดที่จัดจ้าน แต่กลับกัน ชาบูหม่าล่าไม่ทำให้รู้สึกเผ็ดแสบร้อนมากจนเกินไป ซึ่งเป็นรสชาติหลักของชาบูหม่าล่าที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนเมนูอาหารประเภทไหน ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่หลงไหลในรสชาตินี้

รสชาติชา

เมื่อพูดถึงรสชาติเผ็ดกันไปแล้ว อีกหนึ่งรสชาติที่มาคู่กันเลยก็คือ รสชาติชา ซึ่งความชาของหม่าล่านี้เกิดขึ้นมาจาก พริกไทยเสฉวน (Sichuan Peppercorn) เป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยพริกไทยเสฉวนจะให้รสชาติชาที่ลิ้น คล้ายกับความรู้สึกเสียวอ่อน ๆ บนผิวสัมผัสนั่นเอง

เครื่องเทศ 

นอกจากความเผ็ดและความชาจากพริกต่าง ๆ ของหม่าล่าแล้ว พริกหม่าล่ายังเป็นการนำเครื่องเทศและเครื่องปรุงรสมาปรุงร่วมด้วย เพื่อให้รสชาติของหม่าล่ามีความซับซ้อนและลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เครื่องเทศทุกชนิดที่ใช้ในการเคี่ยวพริกหม่าล่านั้น ส่วนใหญ่แล้วมีกลิ่นหอมที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป เมื่อเครื่องเทศเหล่านั้นผสมผสานกัน จะเกิดเป็นรสชาติและกลิ่นที่ลงตัว ส่งผลให้ไปกระตุ้นความอยากทานอาหารได้เป็นอย่างดี

น้ำซุป

หลังจากผ่านกรรมวิธีปรุงและเคี่ยวต่าง ๆ มาอย่างถี่ถ้วนแล้ว น้ำซุปก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับชาบูหม่าล่า โดยชาบูหม่าล่าจะมีน้ำซุปที่กลมกล่อม ไม่จัดจ้านมากจนกลบความอร่อยของรสชาติเผ็ด ชา รวมไปถึงกลิ่นของเครื่องเทศ แต่ตัวน้ำซุปจะเป็นการเพิ่มมิติในอาหารให้มากขึ้น ไม่ให้น่าเบื่อนั่นเอง

ทำไมชาบูหม่าล่าถึงกลายมาเป็นเมนูยอดนิยมในปี 2024

mala hotpot

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เหตุผลที่ทำให้ชาบูหม่าล่ากลายมาเป็นเมนูอาหารยอดฮิตในประเทศไทยคือ ด้านรสชาติที่มีความโดดเด่นและแปลกใหม่ ความเผ็ดที่ไม่เหมือนความเผ็ดของอาหารไทย และความเค็มที่ผสมเข้ากับความเผ็ดจนเกิดความกลมกล่อม ไม่เค็มโดดมากเกินไป อีกทั้งยังเป็นการผสมผสานเข้ากับน้ำซุปและน้ำมันที่เกิดจากเครื่องเทศและวัตถุดิบต่าง ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรสชาติของชาบูหม่าล่าถึงถูกปากและกลายเป็นที่นิยมสำหรับชาวไทยจำนวนมาก

นอกจากนี้ พริกหม่าล่ายังมีกลิ่นสมุนไพรเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนเมนูอาหารไหน ๆ ในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งขิง ข่า ตะไคร้ หรือใบมะกรูด ทำให้หม่าล่ามีความหอม และความรู้สึกเผ็ด ชาหลังจากได้รับประทานไปนั่นเอง จนเกิดเป็นเมนูอาหารอีกมากมายที่นำหม่าล่าไปใช้ปรุง ยกตัวอย่างเช่น ปิ้งย่างเสียบไม้ ชาบูหม่าล่า หม้อไฟหม่าล่า หรือแม้แต่เมนูอาหารไทยอย่าง กะเพราหมูสับก็สามารถปรุงเข้ากับพริกหม่าล่าได้อย่างลงตัวเช่นเดียวกัน

ประโยชน์ของการรับประทานชาบูหม่าล่า

รู้หรือไม่ว่านอกจากรสชาติที่โดดเด่นอย่างความจัดจ้านและถูกปากคนไทยแล้ว คุณอาจจะยังไม่รู้ถึง ประโยชน์ของหม่าล่า ที่มีมากกว่าความอร่อย ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าหม่าล่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง

  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • บรรเทาอาการหวัดและคัดจมูกได้เป็นอย่างดี
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยต้านเชื้อไวรัสและเชื้อราได้
  • กระตุ้นระบบการย่อยอาหาร
  • บำรุงเลือด
  • ลดความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล
  • เสริมสร้างมวลกระดูก และป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • กระตุ้นระบบเผาผลาญ
  • ลดอาการไข้และดับพิษร้อนในร่างกาย
  • แก้อาการวิงเวียนศรีษะ

ข้อควรระวังในการรับประทานชาบูหม่าล่า

จากที่กล่าวไปข้างต้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไม่เพียงแต่ความอร่อยเท่านั้น ชาบูหม่าล่ายังมีคุณประโยชน์อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหม่าล่าจะมีประโยชน์มากเพียงใด แต่ข้อควรระวังคือ ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก รวมถึงไม่ควรรับประทานต่อเนื่องกันยาวนานมากเกินไป เพราะหม่าล่ามีรสชาติที่เผ็ด และมีน้ำมันจำนวนมาก ซึ่งหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลต่อกระเพาะอาหาร และลำไส้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนดังต่อไปนี้

ผู้ที่มีปัญหาเรื่องลำไส้

ด้วยความที่ว่า ชาบูหม่าล่าเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน ทั้งความมัน ความเค็ม และความเผ็ด ซึ่งเมื่อรับประทานมากจนเกินไป จะทำให้ร่างกายเกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง จนถึงขั้นท้องเสียได้ และยิ่งกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องลำไส้ ควรหลีกเลี่ยงการรัปประทานเมนูหม่าล่าอย่างเด็ดขาด แต่หากไม่สามารถเลี่ยงได้ ควรรัปประทานในปริมาณที่น้อยมาก ๆ

ผู้ที่เป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร

รสชาติเผ็ดจัดจ้านของเมนูหม่าล่าจะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตกรดขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งหากผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารและสัมผัสกับกรดในกระเพาะ จะเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นแล้ว ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด และพักรักษาตัวให้หายดีก่อนถึงจะรับประทานเมนูหม่าล่าได้

ผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน

สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน ไม่ควรรับประทานเมนูหม่าล่าเป็นอันขาด เพราะการรับประทานเมนูหม่าล่าที่มีความเผ็ดมากนั้นจะส่งผลให้เยื่อบุหลอดอาหารเกิดกการระคายเคือง และแสบร้อนกลางอกอย่างรุนแรงได้

บทสรุป

ชาบูหม่าล่ากลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำหรับสายกินในปี 2024 เลยก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงแต่ความอร่อยที่น่าจดจำของพริกหม่าล่าแล้ว หม่าล่ายังมีประโยชน์อีกเพียบ แต่กระนั้น แม้ว่าจะมีประโยชน์และอร่อย ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะหากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้กระเพาะและลำไส้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอาจรุนแรงจนถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเลย 
หากใครที่กำลังมองหาร้านชาบูหม่าล่าหรือหม้อไฟหม่าล่าที่รับประกันเรื่องรสชาติและวัตถุดิบคุณภาพสูง Shu Daxia ตอบโจทย์ความต้องการของท่านอย่างแน่นอน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ หรือจองคิวที่เบอร์ 094-491-3900 และช่องทางการติดต่ออื่น ๆ ของ Shu Daxia

SHU DAXIA THAILAND,

CRYSTAL DESIGN CENTER (CDC)

+66 94 413 3900

EVERYDAY: 10:00 am – 01:00 pm