ร้านหม่าล่าหม้อไฟ สไตล์จีน กรุงเทพ ร้านไหนดี

พูดได้เลยว่ากระแสหม่าล่ากำลังมาแรงอย่างมากในประเทศไทย โดยเริ่มแรกเป็นเพียงหม่าล่าปิ้งย่าง หรือหม่าล่าเสียบไม้ที่มีรสชาติเผ็ดชา ทานคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ เป็นอะไรที่ฟินาเล่สุด ๆ แต่ต่อมาเริ่มพัฒนาให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ด้วยรสชาติเผ็ดชาของหม่าล่าผสมผสานกับน้ำซุปสูตรพิเศษที่ส่งกลิ่นหอม ทั้งหม้อไฟหม่าล่า หรือชาบูสายพาน จนกลายมาเป็นหนึ่งในอาหารยอดฮิตติดกระแสในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบการทานเผ็ดเป็นชีวิตจิตใจ บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดหม่าล่าหม้อไฟอย่างเด็ดขาด 

โดยบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับหม่าล่าหม้อไฟกันให้มากยิ่งขึ้นว่าหม้อไฟหม่าล่า คืออะไร พร้อมแนะนำร้านหม่าล่าหม้อไฟ สไตล์จีนต้นตำรับในกรุงเทพ ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากหน้าหลายตาว่าเป็นร้านหม่าล่าหม้อไฟสุดพรีเมียมที่ต้องทานสักครั้งในชีวิต จะมีร้านไหนบ้าง ตามไปดูในบทความพร้อม ๆ กัน

หม่าล่าหม้อไฟกลายเป็นกระแสเทรนด์อาหารในประเทศไทยได้ยังไง?

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมหม่าล่าหม้อไฟถึงได้รับความนิยมยอดฮิตในประเทศไทย? มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ? เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มักจะเห็นร้านหม่าล่าต่าง ๆ มากมายเปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นร้านหม่าล่าหม้อไฟ ร้านชาบูหม่าล่าสายพาน ทั้งที่เป็นแบบบุฟเฟต์ (Buffet) และแบบอะลาคาร์ท (A la carte) เป็นต้น ซึ่งแต่ละร้านก็มักจะอัดแน่นไปด้วยกลุ่มลูกค้ามากมายไม่ขาดสาย

โดยเหตุผลหลักและเหตุผลเดียวที่ทำให้เมนูหม่าล่าต่าง ๆ ทั้งชาบูหม่าล่า หม่าล่าเสียบไม้ หรือหม้อไฟหม่าล่าก็ตามกลายเป็นเมนูยอดนิยมอันดับต้น ๆ ในประเทศไทยคือ ‘รสชาติ’ เพราะหม่าล่ามีรสชาติที่แปลกใหม่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยลิ้มลอง ด้วยความเผ็ดร้อน ชาลิ้น และรสชาติเค็มของเครื่องเทศชนิดอื่น ๆ รวมเข้ากับน้ำซุปแบบต่าง ๆ จากทางร้าน จนครองใจคนไทยได้อย่างไม่อยากเย็นเช่นนี้

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้คนหลงใหลในหม้อไฟหม่าล่าคือ น้ำจิ้มสูตรเฉพาะที่สามารถปรุงแต่งรสชาติเองได้ โดยการเพิ่มส่วนผสมต่าง ๆ ที่ต้องการเข้าไปตามความชอบ เช่น พริกสด กระเทียม หรือน้ำมะนาว เพื่อให้ได้รับรสชาติน้ำจิ้มสูตรลับของตนเอง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยส่วนใหญ่ถึงชื่นชอบในรสชาติหม่าล่าจนทำให้ร้านหม่าล่าหม้อไฟได้รับความนิยมนั่นเอง อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่ากระแสหม่าล่าหม้อไฟจะเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

เลือกร้านหม่าล่าหม้อไฟ สไตล์จีน กรุงเทพมหานครฯ ร้านไหนดี?

ในปัจจุบันนี้ ด้วยกระแสมาแรงของหม่าล่าหม้อไฟ ทำให้มีร้านอาหารเริ่มนำเมนูหม่าล่าเข้าสู่ร้านกันมากขึ้น รวมถึงร้านหม่าล่าหม้อไฟโดยเฉพาะก็เปิดให้บริการอย่างหลากหลายไม่แพ้กัน ทั้งหม่าล่าปิดดึก ชาบูเปิด 24 ชม. หรือหม่าล่าสายพาน เป็นต้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเมืองหลวงของประเทศไทยอย่างกรุงเทพฯ เลย เพราะแทบจะทุกพื้นที่มีร้านหม่าล่าหม้อไฟบริการไม่ขาดเลย ดังนั้นแล้ว บทความนี้เราได้รวบรวม 5 ร้านหม่าล่าหม้อไฟ สไตล์จีนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งด้านบริการ ด้านคุณภาพอาหาร หรือด้านบรรยากาศภายในร้าน

ShuDaxia

ด้วยเอกลักษณ์หม้อไฟหม่าล่ารสชาติต้นตำรับจำประเทศจีนเสฉวนสูตรดั้งเดิม ผนวกกับบรรยากาศการตกแต่งร้านหม่าล่าสวย ๆ ในธีมหมู่บ้านโคมไฟตามสไตล์จีนย้อนยุค พร้อมจุดเด่นเฉพาะตัวอย่างหม้อไฟหม่าล่าหัวมังกร อีกทั้งยังมีการคัดสรรวัตถุดิบทุกชนิดอย่างละเอียด และเมื่อทานคู่กับน้ำซุปและน้ำจิ้มสูตรพิเศษจากทางร้าน รับประกันได้เลยว่าลูกค้าจะได้รับประทานหม่าล่าหม้อไฟสุดพรีเมียมที่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน

การันตีคุณภาพของร้านหม่าล่าด้วยการเป็นแบรนด์ร้านหม่าล่าหม้อไฟเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล Guinness World Records และมีสาขามากกว่า 600 แห่งทั่วโลก โดย ShuDaxia ให้บริการภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘วังมังกร’ The Traditional Dragon Cave ราวกับหลุดออกจากโลกนิยายแฟนตาซีกำลังภายในก็ไม่เกินจริงเลย หากใครเป็นสายหม่าล่าหม้อไฟ ShuDaxia เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและไม่ควรพลาดสำหรับท่าน

CQK Hot Pot

ร้านชาบูปิดดึกที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 11 โมงเช้าไปจนถึงตี 3 กันเลยทีเดียว โดยทาง CQK Hot Pot เป็นร้านหม่าล่าหม้อไฟสไตล์จีนแท้ ๆ ต้นตำรับจากเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ด้วยรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศและพริกฮวาเจียว หรือที่เรารู้จักกันก็คือ พริกหม่าล่า เมื่อรวมเข้ากับรสชาติของวัตถุดิบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นสุดยอดน้ำซุปรสเด็ด สุดเข้มข้นที่ไม่เหมือนร้านไหน รับรองได้ว่าอร่อยจนน้ำตาไหลอย่างแน่นอน

Chancharoen

มาต่อกันที่ ร้านจันทน์เจริญ หม่าล่าเสฉวนหม้อไฟ ส่งตรงจากเมืองเสฉวน ประเทศจีน แม้ว่าชื่อร้านหม่าล่าหม้อไฟอาจจะดูไทย ๆ แต่บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านเป็นสไตล์จีนเสฉวนแท้ ๆ ในราคาเริ่มต้นเพียง 5 บาท บอกได้เลยว่า ใครที่เป็นสายหม่าล่าชาบูสายพาน หรือชื่นชอบการกินเผ็ด Chancharoen เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะที่นี่มีเมนูกว่า 200 รายการให้เลือก! เรียกได้เลยว่าจุใจ แถมยังถูกใจอีกต่างหาก

Te Shuang

ร้านหม่าล่าหม้อไฟ สไตล์จีน ในรูปแบบหม่าล่าสายพานที่ให้ลูกค้าได้ตั้งตารอวัตถุดิบที่ต้องการบนสายพานที่มีมากถึง 60 รายการด้วยกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ที่คนไทยไม่คุ้นเคยมากนัก แต่กระนั้น ราคาก็ไม่ได้สูงมากเท่าที่คิด เพราะเริ่มต้นที่ไม้ละ 5 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีน้ำซุปให้เลือกถึง 8 แบบด้วยกัน ได้แก่ ฉงชิ่งหม่าล่าต้นตำรับ (น้ำมันวัว) / หม่าล่าลิ้นชาน้ำใส / ซานเซียน / ต้มยำกุ้งน้ำข้น / กระดูกหมู / น้ำดำสุกี้ยากี้ / มะเขือเทศ และเห็ดหอม 

สุกี้จินดา

ร้านหม่าล่าหม้อไฟที่มีสาขาในกรุงเทพมากมาย ทั้งร้านหม่าล่าห้วยขวาง หรือลาดพร้าว เป็นต้น ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าสุกี้จินดาเป็นร้านหม่าล่าสายพาน สไตล์จีน เจ้าแรกในประเทศไทยที่มีเอกลักษณ์และจุดเด่นอยู่ที่สูตรลับหม่าล่าสุดพิเศษไม่เหมือนใคร มีน้ำซุปให้ลูกค้าได้เลือกสรรกว่า 7 รสชาติ ประกอบไปด้วย หม่าล่าเผ็ดลิ้นชา(มีมันวัว) / หม่าล่าเผ็ดน้อย(ไม่มีมันวัว) / ต้มยำกุ้ง / เห็ดหอม / มะเขือเทศ และซุปกระดูกหมู ในราคาเริ่มต้นที่ 49 บาทเท่านั้น

บทสรุป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหม้อไฟหม่าล่าจะมีรสชาติอร่อยจัดจ้าน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่กระนั้นก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก หรือรับประทานบ่อยครั้ง ควรเว้นระยะห่างและทานพอสมควร เพราะด้วยรสชาติจากพริกและเครื่องเทศที่มีความเผ็ดร้อน หากรับประทานในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อร่างกายได้ ทั้งอาหารคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หรือลำไส้อักเสบ เป็นต้น ดังนั้นแล้ว รับประทานของอร่อยก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยเช่นกัน