Author: shudaxiathUser
Articles posted by shudaxiathUser

MBK เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงเทพฯ สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะแทบจะมีทุกสิ่งให้บริการอยู่ ณ ที่แห่งนี้เลยก็ว่าได้ ทั้งอาหารการกิน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ความสวยความงาม หรือบริการต่าง ๆ ที่ครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในทุก ๆ ด้าน โดยในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ MBK ว่าคืออะไร พร้อมแนะนำ 4 กิจกรรมน่าทำเบื้องต้นที่ไม่ควรพลาดกับการเที่ยว MBK 1 วัน  ทำความรู้จักกับ MBK ก่อนที่เราจะไปทำดูว่า การไปเที่ยว MBK มีกิจกรรมอะไรบ้างที่น่าสนใจ และกิจกรรมอะไรบ้างที่ไม่ควรพลาด เรามาทำความรู้จักกับ MBK กันก่อนว่าคืออะไร โดย MBK หรือ MBK Center เป็นศูนย์การค้าที่อยู่ในใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทยอย่าง กรุงเทพมหานคร ซึ่งชื่อเดิมก่อนจะมาเป็น MBK Center คือ ศูนย์การค้ามาบุญครอง เซ็นเตอร์ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 40 ปี MBK Center เป็นแหล่งการค้าและชอปปิงแบบครบครันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีสินค้าและบริการต่าง ๆ อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นอาหารแนวสตรีทฟู้ด อาหารชาติอื่น ๆ พื้นที่เฉพาะสำหรับร้านอาหารปิดดึก สินค้าจากไทยและต่างประเทศ ของที่ระลึก

เชื่อได้เลยว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหม่าล่าอย่างแน่นอน เพราะหม่าล่าเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น หม่าล่าเสียบไม้ที่ผ่านการปรุงด้วยวิธีการปิ้งหรือย่าง ส่งกลิ่นหอมเตะจมูก หรือหม่าล่าหม้อไฟที่มีน้ำซุปเข้มข้นเข้าเนื้อ รวมไปถึงเมนูอาหารที่ปรุงเข้ากับหม่าล่า เช่น ผัดกะเพราหมูหม่าล่า เป็นต้น โดยบทความนี้เราจะพาไปเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างหม่าล่าเสียบไม้และหม่าล่าหม้อไฟว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หม่าล่า รสชาติเผ็ดชาที่มาพร้อมกับความอร่อยที่ลงตัว หม่าล่า (Mala) เป็นอีกหนึ่งความอร่อยฮอตฮิตสำหรับสายกินเผ็ด ด้วยรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างความเผ็ดร้อนจากพริกนาและเครื่องเทศนา ๆ ชนิด และความชาลิ้นจากพริกฮวาเจียว (Shichuan Pepper) ที่มีรสชาติคล้ายคลึงกับผักอย่างมะแขว่นของไทย เมื่อรวมเข้ากับผิวสัมผัสของเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้วัตถุดิบเหล่านั้นถูกยกระดับรสชาติขึ้นมา โดยมีรสชาติที่พิเศษ ไม่เหมือนใคร ทั้งความหอม ฉุนที่เป็นเอกลักษณ์ และความเผ็ดชาที่จัดจ้าน  ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้หม่าล่ากลายมาเป็นสุดยอดรสชาติที่ถูกปากและติดใจคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันด้วยกระแสหม่าล่าฟีเวอร์ รวมถึงร้านอาหารหม่าล่าที่เปิดให้บริการมากขึ้น หากใครยังไม่เคยลอง เราขอแนะนำให้ลองรับประทานสักครั้ง ยิ่งหากท่านเป็นคนชอบรสชาติเผ็ดจัดจ้านถึงใจ รับประกันได้เลยว่าหม่าล่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งรสชาติอาหารที่ตราตรึงใจท่านอย่างแน่นอน (อ่านเพิ่มเติม : หม่าล่า คืออะไร? ทำความรู้จัก 'หม่าล่า ฟีเวอร์') หม่าล่าเสียบไม้ vs หม่าล่าหม้อไฟ ความเหมือนที่แตกต่างกัน! จริง ๆ แล้ว ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างหม่าล่าเสียบไม้และหม่าล่าหม้อไฟเลยก็คือ ประเภทของเมนูอาหาร โดยหม่าล่าเสียบไม้เป็นเมนูอาหารแห้ง และหม่าล่าหม้อไฟเป็นเมนูอาหารน้ำ เนื่องด้วยหม่าล่าเสียบไม้เป็นการนำวัตถุดิบไปเสียบไม้ ทาด้วยพริกหม่าล่า ก่อนจะนำไปปิ้งย่างบนเตา ทำให้หม่าล่าเสียบไม้มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการปิ้งย่าง สามารถเลือกทานคู่กับข้าวหรือทานเลยก็ได้เช่นเดียวกัน แต่กลับกัน หม่าล่าหม้อไฟเป็นเมนูอาหารประเภทซุป ซึ่งต้องผ่านกรรมวิธีการต้มน้ำซุปให้ได้ที่ก่อนจะนำวัตถุดิบต่าง ๆ

หม่าล่าชาบู เป็นเทรนด์อาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่น ๆ เนื่องจากเป็นกระแสของการทานอาหารเผ็ดร้อนและชาที่มีความแตกต่างจากรสชาติอาหารแบบไทย ๆ จึงทำให้หม่าล่าชาบูได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และแม้ว่าจะมีรสชาติอร่อยถูกปากคนไทย แต่การทานหม่าล่าชาบูก็จำเป็นจะต้องมีวิธีการทานไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยเช่นกัน ในบทความนี้จะมาบอกต่อเทคนิคการทานหม่าล่าชาบู พร้อมทั้งพฤติกรรมการทานหม่าล่าชาบูที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้เป็นความอร่อยที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย! หม่าล่าชาบู อันตรายต่อร่างกายหรือไม่? หม่าล่าชาบูเป็นอาหารยอดฮิตจากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่ทั้งเข้มข้น กลมกล่อม และเผ็ดชาอย่างลงตัว แน่นอนว่าความอร่อยแบบจัดจ้านมักจะมาพร้อมกับความกังวลว่าจะเกิดผลเสียต่อร่างกายหรือไม่? ซึ่งแม้ว่าจะเป็นอาหารที่มีทั้งความอร่อยและโภชนาการ แต่การทานหม่าล่าชาบูนั้นก็มีข้อควรระวังเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการทานที่มากเกินพอดี แถมยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการทานหม่าล่าชาบูเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น  การระคายเคืองของปากและลิ้น หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อย คือ ปากและลิ้นเกิดการระคายเคืองจากการทานหม่าล่าชาบู และหม่าล่าแบบอื่น ๆ เนื่องจากรสชาติที่เผ็ดร้อนและชาที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณปากและลิ้นขึ้นมา ท้องเสีย การทานหม่าล่าชาบู รวมถึงอาหารอื่น ๆ ที่มีรสชาติเผ็ดแบบจัดจ้าน มักจะตามมาด้วยอาการท้องเสียอยู่บ่อยครั้ง โดยเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายที่มีต่ออาหารรสชาติเผ็ดหรือจัดจ้านเกินไปนั่นเอง โรคกระเพาะ หลายคนอาจคุ้นเคยกับโรคกระเพาะที่เกิดจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา แต่การทานอาหารที่มีรสชาติเผ็ดหรือจัดจ้านเกินไป สามารถก่อให้เกิดโรคกระเพาะอักเสบได้ เนื่องจากร่างกายได้รับสารแคบซินที่มาจากหม่าล่า แน่นหน้าอก เมื่อทานหม่าล่าชาบู หรือหม่าล่าอื่น ๆ จะส่งผลให้ร่างกายมีการกระตุ้นกรดออกมา ซึ่งหากออกมาในปริมาณที่มากเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการแน่นหน้าอกตามมาได้ คลื่นไส้อาเจียน อาการคลื่นไส้อาเจียนหลังจากการกินหม่าล่าชาบู เกิดจากระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนเกินไป นั่นคือ มีปริมาณของกรดที่เกินพอดีในระบบย่อยอาหาร  นอกจากนี้ การทานหม่าล่าชาบูยังอาจตามมาด้วยปัญหาสุขภาพร่างกายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอเลสเตอรอลสูงจากเครื่องในสัตว์ ไขมันสูงจากของทอด หรือโซเดียมสูงจากน้ำจิ้มหม่าล่า เป็นต้น แถมยังมีปัญหาที่สาว ๆ กังวลใจ คือการทานอาหารที่มีรสชาติเค็มมาก ๆ ทำให้ตัวบวมนั่นเอง ดังนั้น สำหรับใครที่ชื่นชอบหม่าล่าชาบูเป็นชีวิตจิตใจ ควรจะรับทานในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกายในอนาคต พฤติกรรมการทานหม่าล่าชาบูที่ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด! รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมการทานหม่าล่าชาบูแบบไหนที่ส่งผลเสียต่อร่างกายบ้าง? สำหรับการทานหม่าล่าชาบูนั้นไม่ควรจะทานเป็นประจำทุกวันหรือทานต่อเนื่องมากเกินไป

หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารสุดพรีเมียมในย่าน Crystal Design Center หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ CDC บทความนี้มีคำตอบให้แก่คุณ เพราะเราจะพาไปทำความรู้จักกับ 5 ร้านอาหารใกล้ CDC ที่มาพร้อมกับรสชาติอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ และบรรยากาศสุดพิเศษตามสไตล์การตกแต่งร้านที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย หรือแม้แต่อาหารยุโรปก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน โดยบทความนี้เราจะพาไปแนะนำร้านอาหารสุดพรีเมียมใกล้ CDC ที่ต้องมาลองสักครั้ง! 5 ร้าน 5 สไตล์ กับร้านอาหารใกล้ CDC สุดพรีเมียม วัฒนธรรมการกินเป็นเรื่องที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งทุกวัฒนธรรมล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ไม่เพียงแต่ด้านรสชาติเท่านั้น แต่รวมไปถึงรูปลักษณ์ ส่วนประกอบ และความหมายของอาหารแต่ละเมนูนั้น  1. Shu Daxia เริ่มต้นร้านแรกกันที่ Shu Daxia ร้านหม้อไฟหม่าล่าดั้งเดิม ต้นตำรับจากเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เหมาะสำหรับสายกินที่ชื่นชอบความเผ็ดร้อนที่จัดจ้าน ผนวกกับความชาลิ้นที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซดน้ำซุปร้อน ๆ ที่ผ่านการปรุงและเคี่ยวจากวัตถุดิบระดับคุณภาพ คัดสรรอย่างละเอียด จนกลายมาเป็นสุดยอดซุปแตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การทานหม้อไฟหม่าล่าที่ยอดเยี่ยมที่สุด Shu Daxia เปิดให้บริการสาขาในประเทศไทยที่ MBK Center ชั้น 6 ด้วยบรรยากาศสุดพรีเมียม สไตล์จีนย้อนยุค ประดับตกแต่งให้เหมือนกับหมู่บ้านโคมไฟที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีน ภายใต้คอนเซปต์วังมังกร (The Traditional Dragon Cave) ซึ่งได้รับการยอมรับจากลูกค้ากว่า

หม่าล่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารยอดนิยมในประเทศไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างความเผ็ดร้อน ควบคู่กับความรู้สึกชาในช่องปาก ซึ่งเป็นรสชาติที่คนไทยไม่ค่อยได้สัมผัสบ่อยครั้ง จึงไม่แปลกเลยที่ในปัจจุบัน กระแสของหม่าล่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหม่าล่าปิ้งย่าง หม่าล่าหม้อไฟ หรืออีกหนึ่งประเภทที่เพิ่งเข้าสู่ประเทศไทยอย่าง ‘หม่าล่าสายพาน’ เรียกได้ว่านอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีความท้าทายและความแปลกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ทำความรู้จัก อาหารยอดนิยมจากประเทศจีน หลายคนยังเข้าใจผิดว่าหม่าล่า (Mala) หมายถึงเมนูอาหารที่นำเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบต่าง ๆ มาเสียบไม้แล้วนำไปปิ้งหรือย่าง แต่จริง ๆ แล้วไม่ถูกทั้งหมด เพราะหม่าล่าหมายถึงรสชาติของอาหารที่มีความเผ็ดร้อนและชาลิ้น โดยในภาษาจีนคำว่า หม่า แปลว่า ‘ชา’ และคำว่าล่า แปลว่า ‘เผ็ด’ นั่นเอง ซึ่งก่อนที่นำกลายมาเป็นหม่าล่านี้ จะมีการนำพริกฮวาเจียว (Sichuan Pepper) และเครื่องเทศอื่น ๆ ไปเคี่ยวรวมกันในน้ำมันเป็นเวลานานจนได้ที่ ถึงกลายมาเป็นพริกหม่าล่าเหมือนที่เรารู้จักกัน โดยเหตุผลที่ว่าทำไมคนไทยถึงเรียกเนื้อเสียบไม้ว่า ‘หม่าล่า’ เป็นเพราะว่ากระแสหม่าล่าครั้งแรกที่เริ่มเข้ามาในประเทศไทยเป็นเนื้อเสียบไม้และทาผงพริก ก่อนจะนำไปย่าง จนกลายมาเป็นคำเรียกติดปากว่า ‘หม่าล่า’ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันไม่เพียงเนื้อเสียบไม้เท่านั้น แต่หม่าล่าได้ถูกนำไปปรุงเป็นอาหารหลากหลายประเภท ทั้งซุปหม้อไฟหม่าล่า ปิ้งย่างหม่าล่า หรือการผสมผสานระหว่างอาหารไทยและหม่าล่าเข้าด้วยกันก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ หม่าล่า เมนูยอดฮิตในประเทศไทย หากพูดถึงกระแสหม่าล่าฟีเวอร์ ต้องย้อนกลับไปในปี 2018 โดยจุดเริ่มต้นคือ ร้านอาหารหม่าล่าหม้อไฟจากประเทศจีนเข้ามามีตีตลาดร้านอาหารในประเทศไทย ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับอย่างล้นหลามตั้งแต่วันแรกที่เปิด ทำให้ลูกค้าพูดกันปากต่อปาก รวมทั้งรีวิวอาหารบนสื่อต่าง ๆ จนเริ่มมีร้านอาหารหม่าล่าเปิดให้บริการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงแบรนด์ร้านอาหารมากมายที่ทนกระแสหม่าล่าฟีเวอร์ไม่ไหวก็หันมาเข้าร่วม โดยการนำเมนูหม่าล่าเข้าไปอยู่ในเมนูอาหารของร้านด้วย แต่กระนั้น

หม่าล่าสายพาน ธุรกิจอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงวันทำงาน หรือแม้แต่วัยชราก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบหม่าล่าสายพาน ด้วยรสชาติเผ็ดจัดจ้านที่ไม่คุ้นเคยสำหรับคนไทย รวมเข้ากับความหอมของน้ำซุปที่ผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศและเครื่องปรุงอย่างลงตัว พร้อมความแปลกใหม่อย่างการเสิร์ฟบนสายพาน ทำให้ผู้คนได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ท้าทาย จึงไม่แปลกเลยที่หม่าล่าสายพานจะกลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบความท้าทายและความสะดวกรวดเร็วในการรับประทานนั่นเอง หม่าล่าสายพาน ความอร่อยที่มาพร้อมกับความสะดวก เชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจจะรู้จักกับ ‘หม่าล่า’ กันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจว่า ‘หม่าล่าสายพาน’ คืออะไร ซึ่งตามชื่อเลยก็คือ เป็นเมนูอาหารที่มีเอกลักษณ์การเสิร์ฟเฉพาะตัวอย่างการนำวัตถุดิบมาเสิร์ฟบนสายพานหมุน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการรับประทานวัตถุดิบประเภทอะไรจากสายพานที่หมุนวน โดยจุดขายของหม่าล่าสายพานคือ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างออกไป เพราะลูกค้าจะได้ตั้งตารอคอย เพื่อเลือกวัตถุดิบที่ต้องการบนสายพาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์นานาชนิด หรือผักต่าง ๆ เป็นต้น จุดเด่นของหม่าล่าสายพานที่แตกต่างจากการรับประทานหม่าล่าแบบทั่วไป คือ การเสิร์ฟวัตถุดิบบนสายพานหมุน โดยเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ท้าทาย สนุกสนานและแปลกใหม่แก่ลูกค้า ซึ่งท้าทายตรงที่ลูกค้าไม่สามารถเลือกวัตถุดิบได้ในทันที จำเป็นต้องรอวัตถุดิบที่ต้องการวนมาถึง เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ดึงดูดของของการรับประทานหม่าล่าสายพานเลยก็ว่าได้ ส่งผลให้การรับประทานอาหารมีจุดหมายและเต็มไปด้วยความสุข หม่าล่าสายพาน VS หม่าล่าหม้อไฟ มีความแตกต่างกันอย่างไร? ทั้งหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟต่างได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยในปัจจุบันนี้ ด้วยความอร่อยและความแปลก จึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นเมนูยอดฮิต แต่กระนั้นก็ยังมีหลายคนไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟแตกต่างกันอย่างไร โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟว่าแตกต่างกันอย่างไร การเสิร์ฟ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟคือ การเสิร์ฟ โดยในส่วนของหม่าล่าสายพาน วัตถุดิบจะถูกส่งมาบนสายพานที่หมุนวนเรื่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากหม่าล่าหม้อไฟคือ ลูกค้าจำเป็นต้องสั่งวัตถุดิบจากพนักงานหรือช่องทางของทางร้าน จากนั้นพนักงานจะนำมาวัตถุดิบมาเสิร์ฟที่โต๊ะ หรือบางร้าน ลูกค้าจำเป็นต้องบริการด้วยตัวเองตามที่ทางร้านจัดเตรียมวัตถุดิบให้เป็นชุด รสชาติ แม้ว่าหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟจะเป็นอาหารประเภทเดียวกัน แต่กระนั้น ทั้งสองอย่างก็มีความแตกต่างกันที่ชัดเจนในด้านรสชาติ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหลายคนสงสัยว่าเป็นเมนูอาหารจำพวกหม่าล่าเหมือนกัน แต่ทำไมรสชาติถึงแตกต่างกัน โดยปกติแล้ว สำหรับหม่าล่าหม้อไฟ ซุปที่เตรียมไว้จะถูกปรุงเสร็จแล้วก่อนนำมาเสิร์ฟ แต่กลับกัน หม่าล่าสายพาน

หม่าล่าหม้อไฟเป็นเมนูอาหารยอดฮิตเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับรสชาติเผ็ดและชาของหม่าล่าหม้อไฟแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่คนไทยจำนวนไม่น้อยถึงหลงใหลในรสชาติอาหารที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนเมนูไหนนี้ ส่งผลให้หม่าล่าหม้อไฟเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ทำความรู้จัก หม่าล่าหม้อไฟ หม่าล่าหม้อไฟ เป็นคำที่ชาวไทยเรียกกันติดปากอย่างแพร่หลาย แต่จริง ๆ แล้วอีกชื่อหนึ่งของหม่าล่าหม้อไฟคือ หม่าล่าฮัวกัว (麻辣火鍋) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยเป็นเมนูอาหารประเภทซุปหรือต้ม ที่นำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ชื่นชอบหรืออยากกิน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ หรือผัก นำมาใส่ในซุปหม่าล่าที่เป็นตัวชูโรงด้านรสชาติของเมนูนี้  โดยเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ หม่าล่าหม้อไฟก็คือสุกี้ชาบูทั่ว ๆ ไป เพียงแต่มีความแตกต่างที่พิเศษเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ ‘พริกหม่าล่า’ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมนูนี้ โดยเป็นการนำพริกหม่าล่าไปปรุงกับน้ำซุปที่เตรียมไว้ เพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่น จัดจ้าน และเป็นเอกลักษณ์จนกลายมาเป็น ‘หม่าล่าหม้อไฟ’ เมนูยอดฮิตอย่างในปัจจุบันนั่นเอง ส่วนประกอบของหม่าล่าหม้อไฟมีอะไรบ้าง? หม่าล่าหม้อไฟมีการปรับปรุงรสชาติให้เข้ากับความชอบของคนไทย ทั้งด้านรสชาติที่มีความเผ็ด และความชา รวมเข้ากับความหวานและความหอมจากวัตถุดิบที่หลากหลาย ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าส่วนประกอบหลักของหม่าล่าหม้อไฟมีอะไรบ้างที่ทำให้เมนูอาหารนี้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำซุป โดยทั่วไปแล้ว น้ำซุปหม่าล่าหม้อไฟจะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าต้องการให้น้ำซุปออกมารสชาติเป็นอย่างไร แต่กระนั้น สำหรับหม่าล่าหม้อไฟแล้ว ทุก ๆ ที่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ หม่าล่า ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของความอร่อยเลยก็ว่าได้ ซึ่งน้ำซุปหม่าล่าหม้อไฟประกอบไปด้วยวัตถุดิบหลัก ๆ ดังนี้  พริกหม่าล่าที่ให้รสชาติเผ็ด ชา พริกแห้ง เพิ่มรสเผ็ดและส่งกลิ่นหอม เครื่องเทศ เช่น อบเชย, กระเทียม, กานพลู

เมนูหล่าม่าเป็นเทรนด์อาหารที่มีครบทั้งรสชาติเผ็ดร้อนและชา ซึ่งเป็นรสชาติที่มีความแปลกใหม่ ท้าทาย น่าค้นหา จึงกลายมาเป็นอาหารยอดนิยมที่เข้ามาครองใจคนรุ่นใหม่ได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะสุกี้หม่าล่า ซึ่งในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับสุกี้หม่าล่า พร้อมทั้งจุดเด่นที่ทำให้กลายมาเป็นเมนูยอดนิยม และกลายมาเป็นเทรนด์อาหารที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะเป็นอาหารที่อยู่คู่กับสังคมไทยไปอีกนานเลยทีเดียว สุกี้หม่าล่า คืออะไร? อย่างที่ทราบกันดีว่าเมนูหม่าล่ามีอยู่หลายรูปแบบ หนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ ‘สุกี้หม่าล่า’ ซึ่งเป็นเมนูที่มีการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสุกี้และหม่าล่า โดยที่หม่าล่าเป็นพริกที่มีรสชาติเผ็ดและชา ซึ่งคำว่า "หม่าล่า" (麻辣) แปลว่า ชาสลบเผ็ด จึงกลายมาเป็นชื่อของเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของความเผ็ดชา และตัวแทนของรสชาติที่มีความร้อนแรงนั่นเอง จุดเด่นของสุกี้หม่าล่าที่ทำให้กลายเป็นเมนูยอดนิยม เชื่อว่าในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็มักจะพบร้านหม่าล่ากันอยู่มากมาย เนื่องจากกระแสของหม่าล่า หรือที่เรียกว่า ‘หม่าล่าฟีเวอร์’ ทำให้ผู้คนหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับหม่าล่ากันมากขึ้น โดยที่จุดเด่นของสุกี้หม่าล่า มีดังนี้ น้ำซุปหม่าล่าที่ปรุงจากพริกเสฉวน กระเทียม และสมุนไพรที่ทั้งหอมและเผ็ดร้อน จึงทำให้ได้น้ำซุปที่มีรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมแบบเฉพาะตัว การใช้วัตถุดิบที่หลากหลาย ได้แก่ ผัก, เนื้อสัตว์, ลูกชิ้น, เห็ด, เต้าหู้ และวัตถุดิบอื่น ๆ เช่นเดียวกับการทำสุกี้โดยทั่วไป รสชาติเผ็ดร้อนและชาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหม่าล่า น้ำจิ้มที่มีการปรุงมาจากน้ำมันงา ซีอิ๊วขาว รวมถึงสมุนไพรจีนต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละคน แม้ว่าวัตถุดิบหรือขั้นตอนในการทำสุกี้หม่าล่า ไม่ได้แตกต่างจากการทำอาหารในเมนูอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียงกันเท่าไหร่นัก แต่จุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของเมนูหม่าล่า ไม่ว่าจะเป็น ปิ้งย่างหม่าล่า, ชาบูหม่าล่า, สุกี้หม่าล่า รวมถึงหม้อไฟหม่าล่า นั่นคือ รสชาติที่มีความเผ็ดร้อนและชาลิ้น รวมถึงกลิ่นหอมจากสมุนไพรจีนต่าง ๆ

ชาบูหม่าล่ามาพร้อมกับรสชาติที่แปลกใหม่ แต่กลับถูกปากคนไทยจำนวนไม่น้อยเลย โดยในปัจจุบัน หากถามคนไทยว่ารู้จักหม่าล่าหรือไม่นั้น มั่นใจได้เลยว่ามากกว่า 70 หรือ 80% ตอบว่ารู้จักอย่างแน่นอน ซึ่งชาบูหม่าล่าเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารยอดฮิตอย่างในปัจจุบัน โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับชาบูหม่าล่า และหม่าล่าว่าคืออะไร มีที่มาที่ไปมาจากไหน และเหตุผลว่าทำไมชาบูหม่าล่าถึงกลายมาเป็นเมนูอาหารยอดนิยมในประเทศไทย พร้อมประโยชน์อีกมากมายที่ดีต่อสุขภาพที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้ หม่าล่า คืออะไร? ก่อนเราไปพูดถึงชาบูหม่าล่า เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหม่าล่ากันก่อน โดยหม่าล่า (Mala) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย แต่กระนั้น หลายคนยังคงเข้าใจผิดว่า ‘หม่าล่า’ เป็นชื่อของเมนูอาหารที่มีรสชาติเฉพาะ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย โดยหม่าล่าคือพริกหรือเครื่องเทศชนิดหนึ่งของประเทศจีน มีส่วนประกอบหลัก ๆ คือพริกไทยเสฉวน พริก และเครื่องเทศอื่น ๆ จากนั้นนำไปเคี่ยวในน้ำมัน จนกลายมาเป็นพริกหม่าล่าอย่างในปัจจุบัน โดยคำว่า ‘หม่าล่า’ แยกออกได้เป็น 2 คำคือ คำว่า ‘หม่า’ ที่แปลว่า ชา ส่วนคำว่า ‘ล่า’ แปลว่าเผ็ด ซึ่งหมายถึงอาการเผ็ดร้อนของอาหาร และรู้สึกชาในปากนั่นเอง (อ่านเพิ่มเติม: หม่าล่า คืออะไร? ทำความรู้จัก 'หม่าล่า ฟีเวอร์') ชาบูหม่าล่ากับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์! ชาบูหม่าล่ามีรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างรสชาติเผ็ดร้อน และรสชาติชา ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และทำให้ผู้คนหลงไหลได้ไม่ยากนัก โดยความเป็นเอกลักษณ์รสชาติของชาบูหม่าล่าประกอบไปด้วย

ร้านอาหารในปัจจุบัน มีการเพิ่มมูลค่าและความพิเศษให้กับร้าน โดยการสร้างบรรยากาศที่มีความแตกต่างและมีความโดดเด่น โดยเฉพาะร้านหม่าล่าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่ารูปแบบของร้านก็จะมีความคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของร้าน หรือการตกแต่งต่าง ๆ ที่มีทั้งความสวยและน่าสนใจ ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำร้านหม่าล่าสวย ๆ บรรยากาศดี เหมาะกับทั้งการรับประทานมื้อพิเศษ และถ่ายรูปได้สวยทุกมุม! เมนูหม่าล่า เทรนด์มาแรงแห่งยุคในปัจจุบัน หากพูดถึงเทรนด์อาหารเผ็ดร้อนที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นเมนูหม่าล่าอย่างแน่นอน ซึ่งเมนูหม่าล่าก็มีอยู่หลายอย่าง ได้แก่ หม่าล่าปิ้งย่าง, หม่าล่าชาบู, หม่าล่าผัด และหม่าล่าหม้อไฟ เป็นต้น  ซึ่งความนิยมเหล่านี้มาจากรสชาติที่ผสมผสานความเผ็ดร้อนและชาจากพริกเสฉวนและเครื่องเทศต่าง ๆ ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งเป็นรสชาติที่ดึงดูดให้ผู้คนลองมาท้าทายกับความเผ็ดร้อนอันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ นอกจากนี้การรับประทานเมนูหม่าล่ายังมีประโยชน์ที่มากกว่าความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น  ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน จากสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเลือด การไหลเวียนเลือด และบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ จากสารแคปไซซิน ช่วยกระตุ้นประจำเดือนให้มาปกติ ช่วยลดอาการปวดและการอักเสบเรื้อรังของร่างกาย ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยทำความสะอาดช่องปาก ลดการสะสมของแบคทีเรีย บรรยากาศของร้านส่งผลต่อมื้ออาหารได้จริงหรือไม่? ร้านอาหารโดยทั่วไป มักจะมีการออกแบบและตกแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับร้าน ซึ่งหากพูดถึงร้านอาหารที่มีบรรยากาศดี ก็มักจะรวมหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งที่สวยงามและพิถีพิถัน, วิวทิวทัศน์เพื่อเพิ่มความประทับใจ, รูปแบบภายในร้านที่ไม่แออัด มีการจัดที่นั่งไว้อย่างเหมาะสม, การสร้างบรรยากาศภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็น แสงไฟหรือเสียงเพลงที่สร้างความอบอุ่นและผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังรวมถึงการบริการที่เป็นมิตรและเอาใจใส่ของพนักงานด้วยเช่นกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบรรยากาศของร้านส่งผลต่อความประทับใจและประสบการณ์การรับประทานอาหารของลูกค้าอย่างมาก โดยเฉพาะในมื้อพิเศษกับคนสำคัญ หรือเป็นมื้ออาหารที่ต้องการสร้างความประทับใจ ซึ่งในวันนี้เราจะพามาดูว่าร้านอาหารสวย ๆ บรรยากาศดี จะเพิ่มความพิเศษของมื้ออาหารได้อย่างไร กระตุ้นความอยากอาหาร บรรยากาศทุกอย่างภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็น แสง สี และเสียง สามารถช่วยเสริมความรู้สึกอยากอาหารของลูกค้าได้

SHU DAXIA THAILAND,

CRYSTAL DESIGN CENTER (CDC)

+66 94 413 3900

EVERYDAY: 10:00 am – 01:00 pm