Blog
Blog

Mala has become one of the most popular culinary trends in Thailand, drawing inspiration from Chinese cuisine. Renowned for its distinctive combination of spiciness and the tingling sensation it creates in the mouth, this flavor profile is relatively novel for many Thais. This uniqueness has fueled its growing popularity, with various forms of mala dishes gaining traction, such as grilled

หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารสุดพรีเมียมในย่าน Crystal Design Center หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ CDC บทความนี้มีคำตอบให้แก่คุณ เพราะเราจะพาไปทำความรู้จักกับ 5 ร้านอาหารใกล้ CDC ที่มาพร้อมกับรสชาติอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ และบรรยากาศสุดพิเศษตามสไตล์การตกแต่งร้านที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย หรือแม้แต่อาหารยุโรปก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน โดยบทความนี้เราจะพาไปแนะนำร้านอาหารสุดพรีเมียมใกล้ CDC ที่ต้องมาลองสักครั้ง! 5 ร้าน 5 สไตล์ กับร้านอาหารใกล้ CDC สุดพรีเมียม วัฒนธรรมการกินเป็นเรื่องที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งทุกวัฒนธรรมล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ไม่เพียงแต่ด้านรสชาติเท่านั้น แต่รวมไปถึงรูปลักษณ์ ส่วนประกอบ และความหมายของอาหารแต่ละเมนูนั้น  1. Shu Daxia เริ่มต้นร้านแรกกันที่ Shu Daxia ร้านหม้อไฟหม่าล่าดั้งเดิม ต้นตำรับจากเมืองเฉิงตู ประเทศจีน เหมาะสำหรับสายกินที่ชื่นชอบความเผ็ดร้อนที่จัดจ้าน ผนวกกับความชาลิ้นที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซดน้ำซุปร้อน ๆ ที่ผ่านการปรุงและเคี่ยวจากวัตถุดิบระดับคุณภาพ คัดสรรอย่างละเอียด จนกลายมาเป็นสุดยอดซุปแตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การทานหม้อไฟหม่าล่าที่ยอดเยี่ยมที่สุด Shu Daxia เปิดให้บริการสาขาในประเทศไทยที่ MBK Center ชั้น 6 ด้วยบรรยากาศสุดพรีเมียม สไตล์จีนย้อนยุค ประดับตกแต่งให้เหมือนกับหมู่บ้านโคมไฟที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีน ภายใต้คอนเซปต์วังมังกร (The Traditional Dragon Cave) ซึ่งได้รับการยอมรับจากลูกค้ากว่า

หม่าล่าสายพาน ธุรกิจอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงวันทำงาน หรือแม้แต่วัยชราก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบหม่าล่าสายพาน ด้วยรสชาติเผ็ดจัดจ้านที่ไม่คุ้นเคยสำหรับคนไทย รวมเข้ากับความหอมของน้ำซุปที่ผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศและเครื่องปรุงอย่างลงตัว พร้อมความแปลกใหม่อย่างการเสิร์ฟบนสายพาน ทำให้ผู้คนได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ท้าทาย จึงไม่แปลกเลยที่หม่าล่าสายพานจะกลายเป็นเมนูอาหารยอดนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบความท้าทายและความสะดวกรวดเร็วในการรับประทานนั่นเอง หม่าล่าสายพาน ความอร่อยที่มาพร้อมกับความสะดวก เชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจจะรู้จักกับ ‘หม่าล่า’ กันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจว่า ‘หม่าล่าสายพาน’ คืออะไร ซึ่งตามชื่อเลยก็คือ เป็นเมนูอาหารที่มีเอกลักษณ์การเสิร์ฟเฉพาะตัวอย่างการนำวัตถุดิบมาเสิร์ฟบนสายพานหมุน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการรับประทานวัตถุดิบประเภทอะไรจากสายพานที่หมุนวน โดยจุดขายของหม่าล่าสายพานคือ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างออกไป เพราะลูกค้าจะได้ตั้งตารอคอย เพื่อเลือกวัตถุดิบที่ต้องการบนสายพาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์นานาชนิด หรือผักต่าง ๆ เป็นต้น จุดเด่นของหม่าล่าสายพานที่แตกต่างจากการรับประทานหม่าล่าแบบทั่วไป คือ การเสิร์ฟวัตถุดิบบนสายพานหมุน โดยเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ท้าทาย สนุกสนานและแปลกใหม่แก่ลูกค้า ซึ่งท้าทายตรงที่ลูกค้าไม่สามารถเลือกวัตถุดิบได้ในทันที จำเป็นต้องรอวัตถุดิบที่ต้องการวนมาถึง เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ดึงดูดของของการรับประทานหม่าล่าสายพานเลยก็ว่าได้ ส่งผลให้การรับประทานอาหารมีจุดหมายและเต็มไปด้วยความสุข หม่าล่าสายพาน VS หม่าล่าหม้อไฟ มีความแตกต่างกันอย่างไร? ทั้งหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟต่างได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยในปัจจุบันนี้ ด้วยความอร่อยและความแปลก จึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นเมนูยอดฮิต แต่กระนั้นก็ยังมีหลายคนไม่เข้าใจและไม่รู้ว่าหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟแตกต่างกันอย่างไร โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟว่าแตกต่างกันอย่างไร การเสิร์ฟ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟคือ การเสิร์ฟ โดยในส่วนของหม่าล่าสายพาน วัตถุดิบจะถูกส่งมาบนสายพานที่หมุนวนเรื่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากหม่าล่าหม้อไฟคือ ลูกค้าจำเป็นต้องสั่งวัตถุดิบจากพนักงานหรือช่องทางของทางร้าน จากนั้นพนักงานจะนำมาวัตถุดิบมาเสิร์ฟที่โต๊ะ หรือบางร้าน ลูกค้าจำเป็นต้องบริการด้วยตัวเองตามที่ทางร้านจัดเตรียมวัตถุดิบให้เป็นชุด รสชาติ แม้ว่าหม่าล่าสายพานและหม่าล่าหม้อไฟจะเป็นอาหารประเภทเดียวกัน แต่กระนั้น ทั้งสองอย่างก็มีความแตกต่างกันที่ชัดเจนในด้านรสชาติ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหลายคนสงสัยว่าเป็นเมนูอาหารจำพวกหม่าล่าเหมือนกัน แต่ทำไมรสชาติถึงแตกต่างกัน โดยปกติแล้ว สำหรับหม่าล่าหม้อไฟ ซุปที่เตรียมไว้จะถูกปรุงเสร็จแล้วก่อนนำมาเสิร์ฟ แต่กลับกัน หม่าล่าสายพาน

หม่าล่าหม้อไฟเป็นเมนูอาหารยอดฮิตเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับรสชาติเผ็ดและชาของหม่าล่าหม้อไฟแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่คนไทยจำนวนไม่น้อยถึงหลงใหลในรสชาติอาหารที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนเมนูไหนนี้ ส่งผลให้หม่าล่าหม้อไฟเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ทำความรู้จัก หม่าล่าหม้อไฟ หม่าล่าหม้อไฟ เป็นคำที่ชาวไทยเรียกกันติดปากอย่างแพร่หลาย แต่จริง ๆ แล้วอีกชื่อหนึ่งของหม่าล่าหม้อไฟคือ หม่าล่าฮัวกัว (麻辣火鍋) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยเป็นเมนูอาหารประเภทซุปหรือต้ม ที่นำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ชื่นชอบหรืออยากกิน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ หรือผัก นำมาใส่ในซุปหม่าล่าที่เป็นตัวชูโรงด้านรสชาติของเมนูนี้  โดยเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ หม่าล่าหม้อไฟก็คือสุกี้ชาบูทั่ว ๆ ไป เพียงแต่มีความแตกต่างที่พิเศษเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ ‘พริกหม่าล่า’ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมนูนี้ โดยเป็นการนำพริกหม่าล่าไปปรุงกับน้ำซุปที่เตรียมไว้ เพื่อให้ได้รสชาติที่โดดเด่น จัดจ้าน และเป็นเอกลักษณ์จนกลายมาเป็น ‘หม่าล่าหม้อไฟ’ เมนูยอดฮิตอย่างในปัจจุบันนั่นเอง ส่วนประกอบของหม่าล่าหม้อไฟมีอะไรบ้าง? หม่าล่าหม้อไฟมีการปรับปรุงรสชาติให้เข้ากับความชอบของคนไทย ทั้งด้านรสชาติที่มีความเผ็ด และความชา รวมเข้ากับความหวานและความหอมจากวัตถุดิบที่หลากหลาย ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าส่วนประกอบหลักของหม่าล่าหม้อไฟมีอะไรบ้างที่ทำให้เมนูอาหารนี้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำซุป โดยทั่วไปแล้ว น้ำซุปหม่าล่าหม้อไฟจะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าต้องการให้น้ำซุปออกมารสชาติเป็นอย่างไร แต่กระนั้น สำหรับหม่าล่าหม้อไฟแล้ว ทุก ๆ ที่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ หม่าล่า ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของความอร่อยเลยก็ว่าได้ ซึ่งน้ำซุปหม่าล่าหม้อไฟประกอบไปด้วยวัตถุดิบหลัก ๆ ดังนี้  พริกหม่าล่าที่ให้รสชาติเผ็ด ชา พริกแห้ง เพิ่มรสเผ็ดและส่งกลิ่นหอม เครื่องเทศ เช่น อบเชย, กระเทียม, กานพลู

เมนูหล่าม่าเป็นเทรนด์อาหารที่มีครบทั้งรสชาติเผ็ดร้อนและชา ซึ่งเป็นรสชาติที่มีความแปลกใหม่ ท้าทาย น่าค้นหา จึงกลายมาเป็นอาหารยอดนิยมที่เข้ามาครองใจคนรุ่นใหม่ได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะสุกี้หม่าล่า ซึ่งในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับสุกี้หม่าล่า พร้อมทั้งจุดเด่นที่ทำให้กลายมาเป็นเมนูยอดนิยม และกลายมาเป็นเทรนด์อาหารที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะเป็นอาหารที่อยู่คู่กับสังคมไทยไปอีกนานเลยทีเดียว สุกี้หม่าล่า คืออะไร? อย่างที่ทราบกันดีว่าเมนูหม่าล่ามีอยู่หลายรูปแบบ หนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นคือ ‘สุกี้หม่าล่า’ ซึ่งเป็นเมนูที่มีการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสุกี้และหม่าล่า โดยที่หม่าล่าเป็นพริกที่มีรสชาติเผ็ดและชา ซึ่งคำว่า "หม่าล่า" (麻辣) แปลว่า ชาสลบเผ็ด จึงกลายมาเป็นชื่อของเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของความเผ็ดชา และตัวแทนของรสชาติที่มีความร้อนแรงนั่นเอง จุดเด่นของสุกี้หม่าล่าที่ทำให้กลายเป็นเมนูยอดนิยม เชื่อว่าในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็มักจะพบร้านหม่าล่ากันอยู่มากมาย เนื่องจากกระแสของหม่าล่า หรือที่เรียกว่า ‘หม่าล่าฟีเวอร์’ ทำให้ผู้คนหันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับหม่าล่ากันมากขึ้น โดยที่จุดเด่นของสุกี้หม่าล่า มีดังนี้ น้ำซุปหม่าล่าที่ปรุงจากพริกเสฉวน กระเทียม และสมุนไพรที่ทั้งหอมและเผ็ดร้อน จึงทำให้ได้น้ำซุปที่มีรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมแบบเฉพาะตัว การใช้วัตถุดิบที่หลากหลาย ได้แก่ ผัก, เนื้อสัตว์, ลูกชิ้น, เห็ด, เต้าหู้ และวัตถุดิบอื่น ๆ เช่นเดียวกับการทำสุกี้โดยทั่วไป รสชาติเผ็ดร้อนและชาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหม่าล่า น้ำจิ้มที่มีการปรุงมาจากน้ำมันงา ซีอิ๊วขาว รวมถึงสมุนไพรจีนต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละคน แม้ว่าวัตถุดิบหรือขั้นตอนในการทำสุกี้หม่าล่า ไม่ได้แตกต่างจากการทำอาหารในเมนูอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียงกันเท่าไหร่นัก แต่จุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของเมนูหม่าล่า ไม่ว่าจะเป็น ปิ้งย่างหม่าล่า, ชาบูหม่าล่า, สุกี้หม่าล่า รวมถึงหม้อไฟหม่าล่า นั่นคือ รสชาติที่มีความเผ็ดร้อนและชาลิ้น รวมถึงกลิ่นหอมจากสมุนไพรจีนต่าง ๆ

ชาบูหม่าล่ามาพร้อมกับรสชาติที่แปลกใหม่ แต่กลับถูกปากคนไทยจำนวนไม่น้อยเลย โดยในปัจจุบัน หากถามคนไทยว่ารู้จักหม่าล่าหรือไม่นั้น มั่นใจได้เลยว่ามากกว่า 70 หรือ 80% ตอบว่ารู้จักอย่างแน่นอน ซึ่งชาบูหม่าล่าเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารยอดฮิตอย่างในปัจจุบัน โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับชาบูหม่าล่า และหม่าล่าว่าคืออะไร มีที่มาที่ไปมาจากไหน และเหตุผลว่าทำไมชาบูหม่าล่าถึงกลายมาเป็นเมนูอาหารยอดนิยมในประเทศไทย พร้อมประโยชน์อีกมากมายที่ดีต่อสุขภาพที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้ หม่าล่า คืออะไร? ก่อนเราไปพูดถึงชาบูหม่าล่า เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหม่าล่ากันก่อน โดยหม่าล่า (Mala) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย แต่กระนั้น หลายคนยังคงเข้าใจผิดว่า ‘หม่าล่า’ เป็นชื่อของเมนูอาหารที่มีรสชาติเฉพาะ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย โดยหม่าล่าคือพริกหรือเครื่องเทศชนิดหนึ่งของประเทศจีน มีส่วนประกอบหลัก ๆ คือพริกไทยเสฉวน พริก และเครื่องเทศอื่น ๆ จากนั้นนำไปเคี่ยวในน้ำมัน จนกลายมาเป็นพริกหม่าล่าอย่างในปัจจุบัน โดยคำว่า ‘หม่าล่า’ แยกออกได้เป็น 2 คำคือ คำว่า ‘หม่า’ ที่แปลว่า ชา ส่วนคำว่า ‘ล่า’ แปลว่าเผ็ด ซึ่งหมายถึงอาการเผ็ดร้อนของอาหาร และรู้สึกชาในปากนั่นเอง (อ่านเพิ่มเติม: หม่าล่า คืออะไร? ทำความรู้จัก 'หม่าล่า ฟีเวอร์') ชาบูหม่าล่ากับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์! ชาบูหม่าล่ามีรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างรสชาติเผ็ดร้อน และรสชาติชา ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และทำให้ผู้คนหลงไหลได้ไม่ยากนัก โดยความเป็นเอกลักษณ์รสชาติของชาบูหม่าล่าประกอบไปด้วย

ร้านอาหารในปัจจุบัน มีการเพิ่มมูลค่าและความพิเศษให้กับร้าน โดยการสร้างบรรยากาศที่มีความแตกต่างและมีความโดดเด่น โดยเฉพาะร้านหม่าล่าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่ารูปแบบของร้านก็จะมีความคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของร้าน หรือการตกแต่งต่าง ๆ ที่มีทั้งความสวยและน่าสนใจ ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำร้านหม่าล่าสวย ๆ บรรยากาศดี เหมาะกับทั้งการรับประทานมื้อพิเศษ และถ่ายรูปได้สวยทุกมุม! เมนูหม่าล่า เทรนด์มาแรงแห่งยุคในปัจจุบัน หากพูดถึงเทรนด์อาหารเผ็ดร้อนที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นเมนูหม่าล่าอย่างแน่นอน ซึ่งเมนูหม่าล่าก็มีอยู่หลายอย่าง ได้แก่ หม่าล่าปิ้งย่าง, หม่าล่าชาบู, หม่าล่าผัด และหม่าล่าหม้อไฟ เป็นต้น  ซึ่งความนิยมเหล่านี้มาจากรสชาติที่ผสมผสานความเผ็ดร้อนและชาจากพริกเสฉวนและเครื่องเทศต่าง ๆ ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งเป็นรสชาติที่ดึงดูดให้ผู้คนลองมาท้าทายกับความเผ็ดร้อนอันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ นอกจากนี้การรับประทานเมนูหม่าล่ายังมีประโยชน์ที่มากกว่าความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น  ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน จากสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเลือด การไหลเวียนเลือด และบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ จากสารแคปไซซิน ช่วยกระตุ้นประจำเดือนให้มาปกติ ช่วยลดอาการปวดและการอักเสบเรื้อรังของร่างกาย ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น ช่วยทำความสะอาดช่องปาก ลดการสะสมของแบคทีเรีย บรรยากาศของร้านส่งผลต่อมื้ออาหารได้จริงหรือไม่? ร้านอาหารโดยทั่วไป มักจะมีการออกแบบและตกแต่งให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับร้าน ซึ่งหากพูดถึงร้านอาหารที่มีบรรยากาศดี ก็มักจะรวมหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งที่สวยงามและพิถีพิถัน, วิวทิวทัศน์เพื่อเพิ่มความประทับใจ, รูปแบบภายในร้านที่ไม่แออัด มีการจัดที่นั่งไว้อย่างเหมาะสม, การสร้างบรรยากาศภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็น แสงไฟหรือเสียงเพลงที่สร้างความอบอุ่นและผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังรวมถึงการบริการที่เป็นมิตรและเอาใจใส่ของพนักงานด้วยเช่นกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบรรยากาศของร้านส่งผลต่อความประทับใจและประสบการณ์การรับประทานอาหารของลูกค้าอย่างมาก โดยเฉพาะในมื้อพิเศษกับคนสำคัญ หรือเป็นมื้ออาหารที่ต้องการสร้างความประทับใจ ซึ่งในวันนี้เราจะพามาดูว่าร้านอาหารสวย ๆ บรรยากาศดี จะเพิ่มความพิเศษของมื้ออาหารได้อย่างไร กระตุ้นความอยากอาหาร บรรยากาศทุกอย่างภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็น แสง สี และเสียง สามารถช่วยเสริมความรู้สึกอยากอาหารของลูกค้าได้

ร้านอาหารแถวสยาม บรรยากาศดี เหมาะแก่การนั่งรับประทานอาหารมื้อพิเศษ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศ เพื่อประสบการณ์การทานอาหารที่ดีที่สุด!

SHU DAXIA THAILAND,

CRYSTAL DESIGN CENTER (CDC)

+66 94 413 3900

EVERYDAY: 10:00 am – 01:00 pm